CISCO PACKET TRACER
ตัวอย่างหน้าตา แบบStar
Topology
ICMP คือ โพรโทคอลที่ทำหน้าที่รายงานความผิดพลาดต่างๆ ใน IP packet และตรวจสอบการทำงานในชั้น Internet Layer
เนื่องจากปกติข้อมูลที่ส่งใน Network จะต้องผ่าน Router มากกว่าหนึ่งตัว เพื่อให้ Router สามารถตรวจสอบปัญหาในการส่งข้อมูลไปยังปลายทาง Router จะใช้ Internet Control Message Protocol (ICMP) ไปแจ้งยัง IP ต้นทาง โดย ICMP จะถูกใช้ในการวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหา
ข้อความใน ICMP จะประกอบด้วย
* Echo Request and Echo Reply
* Source Quench
* Destination Unreachable
* Time Exceeded
* Fragmentation Needed
การเข้าCommand ดู Ping เครือข่าย
Ping คือโปรแกรม ที่เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ใช้ทดสอบว่าโฮสต์ปลายทาง ได้เชื่อมต่อกับระบบไอพี อยู่หรือไม่ โปรแกรม Ping ทำงานโดยการส่งข้อมูล ICMP ประเภท "echo request" ไปยังโฮสต์เป้าหมาย และรอคอยการตอบรับเป็นข้อมูล "echo response" กลับมา (บางครั้งก็เรียกว่า "Ping Pong" คล้ายกับกีฬาเทเบิลเทนนิส) โปรแกรม Ping สามารถประมาณเวลาเดินทางโดยเฉลี่ยของข้อมูลไปกลับ โดยคำนวณจากช่วงเวลาและอัตราเร็วในการตอบรับ เป็นหน่วยมิลลิวินาที และอัตราการสูญเสียข้อมูลระหว่างโฮสต์เป็นเปอร์เซ็นต์ Ping statistics for 192.151.1.1 Minimum = 15ms , Maximum = 16ms,Average = 15 ms
การทำงานของคำสั่ง Tracert
Tracert เป็นคำสั่งที่สามารถแสดงให้เห็นถึงเส้นทาง พร้อมข้อมูลรายละเอียดของอุปกรณ์ค้นหาเส้นทาง(router) ที่ packet ถูกส่งผ่าน จากต้นทาง(เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สั่งคำสั่งนี้) ไปยังปลายทางที่ถูกระบุไว้ คำสั่งนี้ใช้ใน command line ซึ่งติดตั้งมาให้แล้วในระบบปฏิบัติการ Windows (ถ้าเป็นระบบปฎิบัติการ Linux จะเทียบเท่ากับคำสั่ง traceroute)รูปแบบคำสั่งคือ “tracert ” เช่น “tracert www.etda.or.th” หรือ “tracert nrca.go.th” หรือ “tracert 200.0.0.1”คำสั่ง tracert ใช้โปรโตคอล ICMP ซึ่งทำงานอยู่ใน Layer3 ของ OSI model (The Open Systems Interconnection model) อีกทั้งยังใช้ประโยชน์จากค่า TTL(Time To Live) ซึ่งเป็นฟิวส์หนึ่งใน IP packet ที่เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ packet ในระบบเครือข่ายมีวันหมดอายุการทำงาน TTL เกิดขึ้นเมื่อ IP packet ส่งผ่านไปยัง router ใด ๆ ในเส้นทางเพื่อไปยังปลายทาง router นั้น ๆ จะลดค่า TTL ของ packet ลง 1 เมื่อค่า TTL ลดลงเหลือ 0 router ดังกล่าวจะ drop packet ทิ้ง ด้วยวิธีการนี้จึงทำให้ไม่มี packet ตกค้างในระบบ network Tracert อาศัยการทำงานของ ส่งไปถึง host ปลายทาง host จะตอบกลับมาด้วย ICMP echo reply packet เป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการ tracert หนึ่งTTL โดยจะส่ง ICMP echo request packet ไปยัง host ที่ต้องการ ด้วยการเซตค่า TTL=1 ในครั้งแรก TTL=2 ในครั้งถัดมา จากนั้นเซต TTL=3 และจะเพิ่มค่า TTL ไปเรื่อย ๆ (ค่าสูงสุดของ TTL คือ 255) จนกระทั่งปลายทางเป็น IP ของ host ที่ต้องการ “TTL expired in transit” packet จะถูกส่งกลับมาจาก router ที่ทำการลดค่า TTL ลงเหลือ 0 ในที่สุดเมื่อ ICMP echo request packet ถูกครั้ง
ให้เข้าใจง่ายคือ....Tracert เป็น utility ที่ช่วยให้ค้นหาเส้นทางเดินจาก PC ของคุณไปยัง Address ที่ต้องการ
ซึ่งจะช่วยบอกปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการเข้าถึง host ที่ต้องการ เช่น กรณีเมื่อก่อนเคยเข้า
host นี้ได้เร็ว แต่ปัจจุบัน ช้า ก็จะใช้คำสั่งนี้เพื่อดูเส้นทางการเดิน ว่า เส้นทางเดินมีอะไรผิดปกติไหม
หรือว่าเดินหลงทาง
______________________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น